Joyy รายได้ Q2 ปี 2021 เพิ่มขึ้น 39.7%YoY

Joyy เจ้าของแพลตฟอร์มไลฟ์สดและ BIGO เปิดเผยผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสำหรับไตรมาสที่สองของปี 2021 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาโดยมีรายได้ 662 ล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 39.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

การเติบโตของรายได้จากธุรกิจ Live Strip ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 เป็นผลมาจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผู้ใช้บริการ BIGO Paid และสภาพคล่องที่ดีขึ้น รายได้อื่น ๆ ของ บริษัท เพิ่มขึ้น 40.3% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 32.1 ล้านดอลลาร์เทียบกับ 22.9 ล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2563

หลังจากการขายธุรกิจ YY Live JOYY ประสบความสำเร็จในระดับกลุ่มเป็นครั้งแรกในไตรมาสนี้ ภายใต้หลักการบัญชีที่ไม่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ในบรรดา บริษัท ย่อยรายได้ของ Bigo เพิ่มขึ้นจาก 432 ล้านดอลลาร์เป็น 598 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 38.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีและกำไรดีขึ้นอีก อัตรากำไรส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 1.6% ในไตรมาสแรกเป็น 3.3% ทำให้กำไรสุทธิที่ปรับแล้วอยู่ที่ 19.44 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

จำนวนผู้ใช้มือถือที่ใช้งานรายเดือนโดยเฉลี่ยทั่วโลกของ Joyy ลดลง 26.0% เมื่อเทียบเป็นรายปีมาอยู่ที่ 307.5 ล้านคนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากผลกระทบของรัฐบาลอินเดียที่บล็อกแอปพลิเคชันจีนบางรายการรวมถึง Bigo Live Likee และ Hago ตัวเลขนี้อยู่ที่ 415.8 ล้านในช่วงเวลาเดียวกันในปี 2563

ดูเพิ่มเติมที่:Joyy ปฏิเสธข้อกล่าวหาการฉ้อโกงของ บริษัท วิจัยเนื่องจากความไม่รู้ของอุตสาหกรรมถ่ายทอดสดของจีน

บริษัท คาดว่ารายรับในไตรมาสที่สามของปีนี้จะลดลง 608 ล้านดอลลาร์เป็น 635 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 13.7% เป็น 18.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

Joyy ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2005 เป็น บริษัท สื่อสังคมออนไลน์ระดับโลก ธุรกิจของ บริษัท ส่วนใหญ่ครอบคลุมการถ่ายทอดสดวิดีโอสั้น ๆ สังคมอีคอมเมิร์ซการศึกษาการจัดหาเงินทุนและอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์หลักของ บริษัท ได้แก่ Bigo Live Likee และ Hago

บริษัท จดทะเบียนใน NASDAQ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2012 ต่อมา Tiger Tooth Live ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NYSE เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 และกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนรายแรกในกลุ่มบริษัท ในเดือนมีนาคม 2019 Joyy ได้ซื้อ Bigo ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลวิดีโอในต่างประเทศด้วยมูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมาในเดือนเมษายนและพฤศจิกายน 2563 มีการขาย Tiger Tooth Live และ YY Live ให้กับ Tencent และ Baidu ตามลำดับ